วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556

Week 3 Date 26 June 2013

กิจกรรมการเรียนการสอน




องค์ความรู้ที่ได้รับ

       - อาจารย์ให้ดู  DVD  เรื่อง  ความลับของแสง  

สรุป

      การเดินทางของแสง  
แสงเป็นพลังงานรูปหนึ่งเดินทางในรูปเคลื่อนที่มีอัตราเร็วสูง สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่บนโลกไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้โดยไม่มีแสง  แหล่งกำเนิดแสงที่สำคัญที่สุดของเรา  คือ  ดวงอาทิตย์  อย่างไรก็ตามเราสามารถผลิตแสงได้เองเช่นกันโดยใช้ไฟฟ้า
     ทำไมแสงถึงช่วยให้เรามองเห็นได้ ?
เกิดจากการที่แสงไปตกกระทบสิ่งต่างๆ แล้วเกิดการสะท้อนเข้าสู่ตาเราและผ่านเข้ามาในลูกตาไปทำให้เกิดภาพบนจอ  ( Retina )  ที่อยู่ด้านหลังของลูกตา ข้อมูลของวัตถุที่มองเห็นจะส่งขึ้นไปสู่สมองตามเส้นประสาท  ( optic nerve )  สมองจะแปลข้อมูลเป็นภาพของวัตถุนั้น แสงเดินทางเป็นเส้นตรงอย่างเดียว
       เมื่อแสงเคลื่อนที่ผ่านกลุ่มควันหรือฝุ่นละอองจะเห็นเป็นลำแสงเส้นตรงและสามารถทะลุผ่านวัตถุได้วัตถุที่ยอมให้แสงเคลื่อนที่ผ่านเป็นเส้นตรงไปได้นั้นเราเรียกวัตถุนี้ว่า  วัตถุโปร่งใส  เช่น  แก้ว  อากาศ  น้ำ เป็นต้น  ถ้าแสงเคลื่อนที่ผ่านวัตถุบางชนิดแล้วเกิดการกระจายของแสงออกไปโดยรอบทำให้แสงเคลื่อนที่ไม่เป็นเส้นตรงเราเรียกวัตถุนั้นว่า  วัตถุโปร่งแสง  เช่น  กระจกฝ้า  กระดาษไข  พลาสติกฝ้าย  เป็นต้น  ส่วนวัตถุที่ไม่ยอมให้แสงผ่านไปได้เราเรียกวัตถุนั้นว่า  วัตถุทึบแสง  เช่น  ผนังคอนกรีต  กระดาษแข็งหนาๆ  เป็นต้น  วัตถุทึบแสงจะสะท้อนแสงบางส่วนและดูดกลืนแสงบางส่วนไว้ทำให้เกิดเงา
     ประโยชน์ของแสง
ประโยชน์ของแสงสามารถแบ่งได้เป็น  2  ทาง  คือ  ประโยชน์ทางตรง  และ ประโยชน์ทางอ้อม
1. ประโยชน์จากแสงทางตรง  เช่น  การทำนาเกลือ  การทำอาหารตากแห้ง  การตากผ้า  การฆ่าเชื้อโรคในน้ำดื่ม  ต้องอาศัยความร้อนจากแสงอาทิตย์  การแสดงหนังตะลุง  และภาพยนตร์  ต้องใช้แสงเพื่อทำให้เกิดเงาบนจอ การมองเห็นก็ถือเป็นการใช้ประโยชน์จากแสงทางตรง
2. ประโยชน์จากแสงทางอ้อม  เช่น  ทำให้เกิดวัฏจักรของน้ำ  ( การเกิดฝน )  พืชและสัตว์ที่เรารับประทานก็ได้จากการถ่ายทอดพลังงานมาจากแสงอาทิตย์
     การหักเหของแสง
เมื่อแสงเดินทางผ่านวัตถุหรือตัวกลางโปร่งแสง  เช่น  อากาศ  แก้ว  น้ำ  พลาสติกใส  แสงจะสามารถเดินทางผ่านได้เกือบหมดเมื่อแสงเดินทางผ่านตัวกลางชนิดเดียวกันแสงจะเดินทางเป็นเส้นตรงเสมอแต่ถ้าแสงเดินทางผ่านตัวกลางหลายตัวแสงจะหักเห



    สาเหตุที่ทำให้แสงเกิดการหักเห
           เกิดจากการเดินทางของแสงจากตัวกลางหนึ่งไปยังอีกตัวกลางหนึ่งซึ่งมีความหนาแน่นแตกต่างกันจะมีความเร็วไม่เท่ากันด้วยโดยแสงจะเคลื่อนที่ในตัวกลางโปร่งกว่าได้เร็วกว่าตัวกลางที่ทึบกว่า  เช่น  ความเร็วของแสงในอากาศมากกว่าความเร็วของแสงในน้ำและความเร็วของแสงในแก้วหรือพลาสติก
          การที่แสงเคลื่อนที่ผ่านอากาศและแก้มไม่เป็นแนวเส้นตรงเดียวกันเพราะเกิดการหักเหของแสงโดยแสงจะเดินทางจากตัวกลางที่มีความหนาแน่นน้อยกว่า  ( โปร่งกว่า )  ไปยังตัวกลางที่มีความหนาแน่นมาก  ( ทึบกว่า )  แสงจะหักเหเข้าหาเส้นปกติในทางตรงข้ามถ้าแสงเดินทางจากยังตัวกลางที่มีความหนาแน่นมากกว่า  ( ทึบกว่า )  ไปยังตัวกลางที่มีความหนาแน่นน้อยกว่า  ( โปร่งกว่า )  แสงจะหักเหออกจากเส้นปกติ
รุ้งกินน้ำเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
       รุ้งกินน้ำเกิดจากการหักเหของแสงผ่านหยดน้ำที่ล่องลอยในอากาศเมื่อเรามองด้วยตาเปล่าจะเห็นแสงอาทิตย์เป็นสีขาวแต่ในความเป็นจริงนั้นแสงอาทิตย์ประกอบด้วยแสงสีต่างๆ 7 สี  ได้แก่  สีม่วง  คราม  น้ำเงิน  เขียว  เหลือง  แสด  และ แดง  เมื่อแสงอาทิตย์กระทบกับผิวของหยดน้ำฝนก็จะเกิดการหักเหของแสงแยกออกเป็นสีสันต่างๆ แสงแต่ละสีจะหักเหไปด้วยมุมต่างๆ กันขึ้นอยู่กับความยาวของคลื่นโดยที่แสงสีแดงมีความยาวคลื่นมากที่สุดแต่จะหักเหด้วยมุมน้อยที่สุดขณะที่แสงสีม่วงมีความยาวคลื่นสั้นที่สุดจะหักเหมากที่สุด รุ้งกินน้ำที่เกิดจากการสะท้อนของแสงแดดจากหยดน้ำในก้อนเมฆที่ลอยอยู่ในท้องฟ้าโดยที่แสงสีแดงจะอยู่บนสุดสีม่วงจะอยู่ล่างสุด





My  Map







ทักษะที่ได้รับ

       - การได้ดู  DVD  และสรุปทำความเข้าใจเกี่ยวกับสื่อที่อาจารย์ให้ดูเรื่อง  ความลับของแสง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น